แลมพาร์ด กับ เชลซี : การจับมือที่พังกันทั้งคู่
แลมพาร์ด กับ เชลซี : การจับมือที่พังกันทั้งคู่

ไม่ว่าฤดูกาลนี้จะจบลงเช่นไร คงไม่มีใครปฏิเสธว่า เชลซี กำลังจะมีซีซั่นที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 20 หรือนับตั้งแต่ โรมัน อับราโมวิช เข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003 ในยุคของ “เสี่ยหมี” ทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” ประสบความสำเร็จมีแชมป์ติดมือแทบทุกปี มีแค่ 5 ฤดูกาลเท่านั้นที่มือเปล่า ทว่าพวกเขาก็ไม่เคยอยู่ต่ำกว่าอันดับ 6 มาก่อนแต่ภายใต้การบริหารของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ เจ้าของทีมคนใหม่ อะไรก็ดูผิดที่ผิดทางไปหมด ทุ่มเงินกว่า 600 ล้านปอนด์ แต่ผลงานที่ได้สวนทางกันโดยสิ้นเชิง ปัจจุบัน เชลซี อยู่อันดับ 11 ของตารางพรีเมียร์ลีก มีคะแนนตามหลังพื้นที่ท็อปโฟร์ถึง 17 คะแนน ขณะที่บอลถ้วยในประเทศทั้ง ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ จอดป้ายตั้งแต่รอบ 3

ความหวังเดียวของ “สิงห์บลูส์” อยู่ที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเข้ามาลึกถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยแฟนบอลมีความเชื่อเล็กๆ ว่าจะประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากพวกเขาเคยคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อต้องใช้งานกุนซือขัดตาทัพ ปี 2012 โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เข้ามาคุมทีมแทน อังเดร วิลลาส โบอาส ก่อนพาทีมเฉือนจุดโทษ บาเยิร์น ผงาดคว้าแชมป์ยูซีแอล ได้เป็นครั้งแรกของสโมสร ปี 2021 โธมัส ทูเคิ่ล ที่เข้ามาคุมทีมกลางฤดูกาล สามารถพาทีมดับฝัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พา เชลซี ได้ถ้วยหูยักษ์เป็นสมัยที่ 2 และเป็นสมัยแรกในรอบ 9 ปี
ตำนานคืนถิ่นรอบสอง

ปัจจุบัน เชลซี แต่งตั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด อดีตตำนานนักเตะของทีมเข้ามาเป็นกุนซือเป็นคำรบ 2 ด้วยสัญญาระยะสั้นแค่จบฤดูกาลนี้ ซึ่งก็เข้าสูตรโค้ชขัดตาทัพลุ้นแชมเปี้ยนส์ลีก พอดิบพอดี อย่างไรก็ตามแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ก็ดับวูบภายในเวลาอันรวดเร็ว ทีมดังจากลอนดอนตะวันตก กระเด็นตกรอบด้วยน้ำมือของแชมป์เก่า เรอัล มาดริด หลังเจอกัน 2 นัดพ่ายไปด้วยสกอร์รวม 4-0 พูดถึงเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ใช่ว่า “สิงโตน้ำเงินคราม” จะไม่มีโอกาสกลับสู่เกมเลย หาก เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ มาร์ค คูคูเรย่า มีความเฉียบขาดกว่านี้พวกเขาอาจเจอจุดเปลี่ยนที่ทำให้ “ราชันชุดขาว” ตกที่นั่งลำบากได้เหมือนกัน
4 เกมแรกไร้ชัยชนะ

หลังจบเกมคนที่โดนวิจารณ์หนักคงหนีไม่พ้น แลมพาร์ด ที่ไม่ได้เข้ามากู้วิกฤติทีมใดๆ ได้เลย เผลอๆ ผลงานแย่กว่า เกรแฮม พ็อตเตอร์ ด้วยซ้ำ พูดตามสำนวนไทยคือ “หนีเสือปะจระเข้” ชัดๆเฮดโค้ชวัย 44 ปีกลายเป็นกุนซือ เชลซี คนแรกในรอบ 118 ปี ที่ออกสตาร์ตคุมทีม 4 เกมแรกด้วยการแพ้รวด แถมเกมรุกก็จืดหนักยิงได้แค่ประตูเดียวเท่านั้นความเร็วร้ายไม่ได้มีแค่นี้ นับเฉพาะปี 2023 รวมหมดที่คุม เอฟเวอร์ตัน และ เชลซี แพ้รวดทั้ง 8 เกม ยิงได้แค่ 4 เสียไปถึง 18 ประตู หรือย้อนไปไกลหน่อย 18 เกมหลังสุด “แลมพ์” พาทีมชนะแค่หนเดียว แถมแพ้ไปถึง 15 นัด
ทำอะไรก็ดูไม่ดีไปหมดในตอนนี้

ไม่แปลกใจที่แฟนบอล เชลซี บางกลุ่มจะออกมาต่อต้านการคัมแบ็กของ แลมพาร์ด เพราะสถิติมันฟ้องชัดเจนว่าเขาเป็นกุนซือที่ฝากผีฝากไข้อะไรไม่ได้เลย ไม่เข้าใจกระบวนความคิดของ ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ จริงๆ คือตัดสินใจปลด เกรแฮม พ็อตเตอร์ เพราะผลงานแย่ก็พอเข้าใจได้ แต่ถ้าหากุนซือที่ดีกว่าไม่ได้ การทนให้โอกาสกับอดีตกุนซือขอ ไบรท์ตัน ต่อไป ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
มีคนอื่นที่ดีกว่านี้ไหมจากใจแฟนเดอะบลูล์?

ที่สำคัญเลยตลาดกุนซือตอนนี้มีมือดีตั้งมากมายที่ว่างงานอยู่ ยูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์, เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, หลุยส์ เอ็นริเก้ หรือแม้กระทั่งกุนซือเก่าของทีมอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ พูดตรงๆ ใครก็ได้ ดีกว่า แฟรงค์ แลมพาร์ด ทั้งนั้น จริงอยู่ว่าเฮดโค้ชเกรดแบบนี้ส่วนใหญ่ไม่ชอบรับงานกลางคัน แต่มันก็เป็นเชิงของผู้บริหารที่จะโชว์ “สาลิกาลิ้นทอง” พูดเกลี่ยกล่อม หรือขายนโยบายการทำทีมเพื่อโน้มน้าวใจกุนซือเหล่านี้
เอ็นริเก้ก็ได้

อย่าง หลุยส์ เอ็นริเก้ ตามรายงานก็มีใจให้ เชลซี มีการวีดีโอคอลกับบอร์ดบริหาร ยอมบินมาเจรจาถึงลอนดอน แต่สุดท้ายเป็นทีมดังจากกรุงลอนดอน ที่ตัดสินใจปฏิเสธเขาเอง
หรือนาเกิ้ลมันน์ก็ดี

ยูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ ก็เช่นเดียวกันถ้ายอมจ่ายค่าฉีกสัญญาให้กับ บาเยิร์น ทุกอย่างก็น่าจะราบรื่นได้ไม่ยาก โปรไฟล์ของเจ้าตัวเหมาะเลยกับการล่ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก หลังฤดูกาลนี้คุมทีมชนะรวดทุกนัดก่อนแยกทางกับทีม “เสือใต้”
เจ้าของทีมต้องรีบหาทางแก้โดยด่วน

อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ย์ ทำอะไรก็ผิดที่ผิดทางไปหมด ในขณะที่ทีมผลงานแย่แทนที่จะหากุนซือมือดีมาเรียกศรัทธา กลับเลือกประวิงเวลารอเจรจาหลายๆ คนก่อนที่จะตัดสินใจสุดท้ายสโมสรก็มือเปล่า แถมฤดูกาลหน้าจะอดไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีก รายได้ที่ขาดหาย สวนทางกับการทุ่มงบซื้อนักเตะ สุ่มเสี่ยงต่อการถูกกฎการเงินเล่นงาน ทุกอย่างดูมืดมิดไร้ซึ่งทางออก
ไม่มีใครได้ประโยชน์เลย

การกลับมาคุม เชลซี เป็นคำรบ 2 แลมพาร์ด เองก็หวังกู้ชื่อในฐานะกุนซือหลังเสียเครดิตไปเยอะกับ เอฟเวอร์ตันทว่าการจับมือกันของทั้ง 2 ฝ่าย ดูแล้วจะชิบหายกันหมด ไม่มีใครได้ประโยชน์เลยจริงๆ
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์
รับชมฟุตบอลออนไลน์ :: ดูบอลสด
ติดตามบทวิเคราะห์บอลเพิ่มเติม :: วิเคราะห์บอลวันนี้
คอนเทนต์เพิ่มเติม


TOP 10 : นักเตะฟรีเอเยนต์ซัมเมอร์นี้


เซบีย่า : เข้าชิงเมื่อไหร่ก็แชมป์
