โม ซาลาห์ ตำนานอีกเล่มแห่งถิ่นแอนฟิลด์
โม ซาลาห์ ตำนานอีกเล่มแห่งถิ่นแอนฟิลด์

ช่วงเวลา 6 ฤดูกาลในสีเสื้อ ลิเวอร์พูล ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แฟนบอลแทบจะหาข้อบกพร่องไม่ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องของจำนวนการทำประตู มันสามารถทำให้แฟนบอลสามารถไว้ใจได้อย่างน้อย 20 ตุงมาตลอด จากซีซั่นแรกที่ถูกดึงตัวเข้ามาพร้อมการตั้งคำถามมากมายจากแฟนบอล เพราะครึ่งหนึ่งในการย้ายมาเล่นในอังกฤษกับ เชลซี ถ้าจะใช้คำว่า “ล้มเหลว” ก็คงไม่มากจนเกินไปนัก 19 นัด 2 ประตู พร้อมผลงานที่ติดลบ คือภาพจำที่เหล่าแฟนบอลสามารถจำแนวรุกจากเมืองนากริก ประเทศอียิปต์ ได้เป็นอย่างดี

แม้การโยกไปค้าแข้งในอิตาลีจะพอสามารถกู้ชื่อ และความมั่นใจกลับมาได้ ทว่าข้อสงสัยคือเรื่องของฝีเท้า และสภาพแวดล้อมที่มันแตกต่างกันระหว่าง พรีเมียร์ลีก กับกัลโช่ เซเรีย อา ความแตกต่างตรงนี้ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะสปีดฟุตบอลที่เกาะอังกฤษรวดเร็วกว่าอยู่หลายช่วงตัว
เงินจำนวน 42 ล้านยูโร ถือว่าไม่ใช่น้อยๆ กับนักเตะที่ตอนนั้นไม่ได้ถูกยกให้เป็นระดับเกรด A ของยุโรป และต้องพิสูจน์ตัวเองอีกมากโข ทว่าหนึ่งในสิ่งที่พอเชื่อใจได้คือการตัดสินใจที่มาจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ และทีมงานที่ติดตามฟอร์ม และเชื่อว่า ซาลาห์ จะเข้ามาตอบสนอง และเข้ากับแผนงานของเขาได้เป็นอย่างดีที่แอนฟิลด์

ถ้าภาพจำกับชุดเกราะ “สิงห์บลูส์” คือความล้มเหลว เพียงขวบปีแรก ซาลาห์ สามารถลบคำครหาทั้งหมดได้ในช่วงเวลาเพียงไม่นาน 44 ประตู จาก 52 นัดในทุกรายการ มันมากพอที่จะอุดมากเหล่านักวิจารณ์ที่ตั้งข้อสงสัยในฝีเท้าของเขา แม้จะยังไม่มีโทรฟี่แชมป์มาครอบครอง ทว่ามันคือแสงสว่างที่ทำให้ “เดอะ ค็อป” กลับมามีหวังอีกครั้ง จากแนวรุกชุดก่อนที่มีพวก คริสเตียน เบนเตเก้, ริคกี้ แลมเบิร์ต หรือ แดนนี่ อิงส์ มันกำลังอยู่ดัดแปลงโดย คล็อปป์ ภายใต้เงื่อนไขของเวลาที่หาคนที่ใช่ในตำแหน่งที่เหมาะสม

ถ้าประเมินจากคำพูดของ มูรินโญ่ สมัยร่วมงานที่ เชลซี ตัวของ ซาลาห์ มีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดพอสมควร “เขายังเด็กเกินไป เขามีความเร็ว แต่เปราะบาง เขายังปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษได้ไม่ดีนะ” ทว่าเวอร์ชั่นใหม่ของ ซาลาห์ ที่ แอนฟิลด์ กลายเป็นคนที่มีความมั่นใจ แข็งแกร่งทั้งเรื่องร่างกาย และสภาพจิตใจ ความมุ่งมั่นที่มากกว่าเดิม ส่วนหนึ่งคืออยากพิสูจน์ว่ากับฟุตบอลอังกฤษเขาสามารถแบกความหวังในมากกว่าในอดีต
เมื่อผลงานส่วนตัวมันเข้าร่องเข้ารอย บวกกับศักยภาพของทีมที่ถูกยกระดับมากยิ่งขึ้น จากนั้นคือการเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จมาประดับ ไล่ตั้งแต่ แชมเปี้ยส์ลีก, พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ หรือ ลีก คัพ เรียกได้ว่าทุกโทรฟี่ที่ ลิเวอร์พูล ลงสนามทำการแข่งขัน ซาลาห์ สามารถความแชมป์มาเชยชมได้ทั้งหมด ในชนิดที่ว่ามีเขาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการขับเคลื่อน

นับจนถึงตรงนี้ ซาลาห์ ลงสนามให้กับ ลิเวอร์พูล ในทุกรายการไปแล้ว 290 นัด ทำไปได้มากถึง 176 ประตู อีกทั้งพ่วงสถิติมากมาย
– นักเตะอียิปต์คนแรกที่ทำแฮตทริกในศึกพรีเมียร์ลีก
– นักเตะจากแอฟริกาคนแรกที่ยิงในลีกได้เกิน 30 ประตู
– นักเตะจากแอฟริกาที่ทำแฮตทริกได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก (4 ครั้ง)
– นักเตะลิเวอร์พูลคนที่ 2 ที่ซัด 20 ประตู/ซีซั่น ติดต่อกัน 6 ฤดูกาล
อีกทั้งรวมไปถึงความสำเร็จส่วนตัวที่เหมือนเครื่องตอกย้ำชั้นยอดถึงผลงานทั้ง นักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก, รางวัลดาวซัลโว หรือ รางวัลแข้งยอดเยี่ยมประจำเดือนต่างๆ

ส่วนสถิติการทำประตู ถ้าแบ่งตามรายฤดูกาลต้องบอกเลยว่ามาตรฐานสูงเอาการ
2017-18 : 52 นัด, 44 ประตู
2018-19 : 52 นัด, 27 ประตู
2019-20 : 48 นัด, 23 ประตู
2020-21 : 51 นัด, 31 ประตู
2021-22 : 51 นัด, 31 ประตู
2022-23 : 36 นัด, 20 ประตู **ยังไม่จบฤดูกาล

แน่นอนถ้าจะบอกว่านับตั้งแต่ ซาลาห์ ย้ายมายัง แอนฟิลด์ เจ้าตัวสามารถสถาปนาตัวเองกลายเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่างเต็มตัว พร้อมยกระดับทีมให้กลายเป็นเต้ยของบอลยุโรปเข้าชิงรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 3 ครั้ง อีกทั้งความสำเร็จต่างๆ ที่แฟนบอลสามารถจับต้องได้ พร้อมลบฝันร้ายแฟนบอลได้อย่างสนิทใจ ทว่าในอีกมุมเหมือนตัวของดาวยิงวัย 30 ปี โดนมองข้ามอะไรไปในหลายๆ อย่าง สิ่งที่เขาเคยทำมาตลอดน่าจะคู่ควรต่อการได้รับการยกย่องมากกว่านี้ ทั้งเรื่องความเป็นเวิลด์คลาส ยอดดาวยิง หรือ ตัวจบสกอร์ที่ดีเบอร์ต้นๆ ของยุโรป แต่เหมือนโฟกัสที่ผ่านมาจะถูกเพ่งเล็งไปหาคนอื่นๆ อาทิเช่น คาริม เบนเซม่า, เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หรือ คีเลียน เอ็มบัปเป้ มากกว่า

แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ซาลาห์ เองคงไม่ได้ไปใส่ใจถึงประเด็นตรงนั้นมากนัก เจ้าตัวยังคงก้มหน้าทำงานอย่างหนัก ส่วนหนึ่งเพราะผลงานในฤดูกาลนี้ที่ดร็อปลงไปทั้งส่วนตัว และทีม แต่อย่างน้อยเขายังคงเป็นความหวังในแดนหน้า ในวันที่คนอื่นๆ ยังไม่สามารถคาดหวังผลได้ ห้วงเวลา 6 ฤดูกาลกับ ลิเวอร์พูล ถือว่านานในระดับหนึ่งที่จะสามารถยกย่องได้ว่าคือหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ และมันดีกว่าแข้งชื่อดังไม่ว่าจะเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส หรือ หุลยส์ ซัวเรซ เสียอีก เพราะ ซาลาห์ มีโทรฟี่แชมป์มาประดับสโมสรมากมาย และสถิติที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน เชื่อว่าแฟนบอล ลิเวอร์พูล รักในตัวผู้ชายคนนี้ไม่ใช่น้อย และ ซาลาห์ ก็ผูกพันกับ “เดอะ ค็อป” ไม่ต่างกัน

“สโมสรแห่งนี้ มีความหมายกับชีวิตผมมากเหลือเกิน ที่นี่ผมมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลมากกว่าทุกที่บนโลก ผมมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้กับ ลิเวอร์พูล”
“ถ้าวันหนึ่งผมต้องย้ายไป มันต้องเป็นช่วงเวลาที่เศร้ามากแน่ๆ” ครั้งหนึ่ง ซาลาห์ ได้กล่าวถึงสโมสรแห่งนี้
ตำนานอีกหนึ่งบทที่ควรได้รับการขึ้นหิ้งเหมือนตำนานที่เคยผ่านมา
“โมฮาเหม็ด ซาลาห์”
คอนเทนต์เพิ่มเติม :: ฟุตบอลคอนเทนต์
คอนเทนต์เพิ่มเติม


TOP 10 : นักเตะฟรีเอเยนต์ซัมเมอร์นี้


เซบีย่า : เข้าชิงเมื่อไหร่ก็แชมป์
